เมื่อพระคำพูดเกี่ยวกับการสารภาพ หลายคนเข้าใจในรูปแบบของการสารภาพบาป แต่การสารภาพนั้นมีมากกว่านั้น การสารภาพมีความหมายถึงการพูดสิ่งเดียวกับพระเจ้าในการเห็นพ้องต้องกัน มาจากคำในภาษากรีก “homologia” เป็นหลักการของแผ่นดินพระเจ้าที่เริ่มต้นด้วยความรอดของคุณในฐานะลูกของพระเจ้า

คุณไม่สามารถได้รับความรอดโดยปราศจากการสารภาพได้ ไม่ใช่การสารภาพบาป แต่เป็นการยืนยันในการเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของพระเยซูเหนือชีวิตของคุณ โรม 10:9-10 กล่าวว่า “คือว่าถ้าท่านจะยอมรับด้วยปากของท่านว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในใจว่า พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด เพราะว่าการเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด” สิ่งนี้เป็นการสารภาพที่แท้จริงซึ่งนำคุณไปถึงความรอด

เวลาเดียวที่คุณสารภาพสิ่งที่คุณได้ทำผิดพลาดไปคือหลังจากที่คุณได้กลายมาเป็นคริสเตียนและได้รับชีวิตนิรันดร์แล้ว เมื่อคุณทำความผิดบางอย่าง คุณคุยกับพระเจ้าเกี่ยวกับสิ่งนั้นและได้รับการยกโทษ แม้ว่าคุณคุยกับพระเจ้า คุณก็ไม่ได้สารภาพบาปของคุณ เพราะว่าพระองค์ไม่ได้บอกให้เราสารภาพบาปของเราต่อพระองค์ พระองค์ทรงทราบอยู่แล้ว คุณเพียงแต่สารภาพหรือตระหนักในความผิดของคุณต่อพี่น้องชายหญิงที่คุณอาจจะทำผิดด้วย นั่นคือสิ่งที่เราได้อ่านในข้อพระคำตอนต้น

บางคนอาจถามว่า “แล้วใน 1 ยอห์น 1:9 ที่บอกว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” สำหรับบางคน พวกเขาเชื่อว่านี่หมายความว่าพวกเขาทำบาปอยู่เสมอ เราอยู่ในสภาพของความบาปและการสารภาพบาปอย่างต่อเนื่อง แต่นั่นไม่ใช่ความจริง ถ้าเราตระหนักในความบาปของเรา พระองค์จะทรงยกโทษให้แก่เรา 1 ยอห์น 2:1 กล่าวว่า “…ถ้าใครทำบาป เราก็มีผู้ช่วยทูลขอพระบิดาเพื่อเรา คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเที่ยงธรรมนั้น” สังเกตว่าพระคำไม่ได้กล่าวว่า “เมื่อใครทำบาป” แต่บอกว่า “ถ้าใครทำบาป” ให้คุณได้ทราบว่าความบาปไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยิ่งไปกว่านั้น พระคำกล่าวว่า “บาปจะไม่ครอบงำพวกท่านต่อไป…” (โรม 6:14) ฮาเลลูยา

คำอธิษฐาน