วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2020
จงกล่าวยืนยันความจริงของพระองค์
Affirm His Truths

และเรามีใจเชื่อเช่นเดียวกับที่เขียนไว้ว่า “ข้าพเจ้าเชื่อฉะนั้นข้าพเจ้าจึงพูด” เราก็เชื่อฉะนั้นเราจึงพูดด้วย (2 โครินธ์ 4:13)
2 ทิโมธี 3:1 เตือนว่าในวาระสุดท้ายนั้นจะเป็นเวลาที่น่ากลัว อย่างไรก็ตาม โรม 8:35-37 บอกให้เรารู้ว่าแม้จะมีความยากลำบาก ความทุกข์ การกันดารอาหาร ภัยอันตราย และการระบาดใหญ่ซึ่งจะเป็นลักษณะของหมายสำคัญแห่งยุคสุดท้าย คุณก็ไม่มีอะไรต้องกลัว นี่เป็นเพราะว่าคุณเป็นยิ่งกว่าผู้พิชิต “แล้วใครจะให้เราขาดจากความรักของพระคริสต์ได้? จะเป็นความทุกข์ หรือความยากลำบาก หรือการเคี่ยวเข็ญ หรือการกันดารอาหาร หรือการเปลือยกาย หรือการถูกโพยภัย หรือการถูกคมดาบหรือ? …แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เรามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ทรงรักเราทั้งหลาย” (โรม 8:35-37)
สิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำก็คือยึดมั่นในพระคำของพระเจ้า นั่นคือรู้และตระหนักถึงพระคำและสถาปนาพระคำผ่านทางการพูด ฤทธิ์อำนาจอยู่ในการกล่าวยืนยัน ยกตัวอย่างเช่น พระคำกล่าวว่า “อาวุธทุกชนิดที่ทำขึ้นเพื่อต่อสู้เจ้าจะไม่ชนะ” (อิสยาห์ 54:17) พระเยซูตรัสในลูกา 10:19 ว่า “ไม่มีอะไรจะมาทำอันตรายพวกท่านได้เลย” หลังจากนั้นในยอห์น 16:33 พระองค์ยังตรัสอีกว่า เราบอกเรื่องนี้กับพวกท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว จงเชื่อและกล่าวยืนยันความจริงเหล่านี้
พระเยซูไม่ได้เอาชนะโลกนี้เพื่อพระองค์เอง แต่เพื่อคุณ พระองค์ได้ชนะโลกนี้และสิ่งชั่วร้าย ความมืด และสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดในนั้น และประทานชัยชนะให้แก่คุณ สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้ก็คือการสถาปนาและรักษาชัยชนะนั้นไว้ในชีวิตของคุณด้วยการกล่าวสารภาพที่เต็มไปด้วยความเชื่อของคุณ
พระองค์พูดในมาระโก 11:23 ว่า “…ถ้าใครสั่งภูเขานี้ว่า ‘จงลอยลงทะเลไป’ และใจไม่สงสัย แต่เชื่อว่าจะเป็นไปตามที่สั่งนั้น ก็จะเป็นไปตามนั้นจริงๆ”
พระคำของพระเจ้าในปากของคุณเป็นพลังสร้างสรรค์ สรรเสริญพระเจ้า!
ถ้อยคำแห่งความเชื่อ
ฉันป่าวประกาศว่าชีวิตของฉันมีไว้เพื่อพระสิริและความงดงาม และในเส้นทางในชีวิตของฉันมีความสำเร็จ ชัยชนะ และสุขภาพที่ดี ฉันอธิษฐานเผื่อประชากรของพระเจ้าทั่วโลกที่อาจจะป่วยหรือทุกข์ทรมานที่ฤทธิ์อำนาจแห่งการรักษาของพระเจ้าจะทำงานผ่านพวกเขาและสุขภาพของพวกเขาถูกทำให้สมบูรณ์แบบในพระนามพระเยซู อาเมน
ศึกษาเพิ่มเติม:ลูกา 6:45; ฟีเลโมน 1:6; สุภาษิต 18:21
Comments are closed